รูปปั้นสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามและสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
สองตัวละครเอกจากวรรณคดีเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม ที่หาดทรายแก้ว เกาะเสม็ด
จังหวัดระยอง
ท้าวสุทัศน์และสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานประทุมเกสร
ผู้ครองกรุงรัตนา มีสุนัขไทยหลังอานโอรสสององค์ คือ สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
และศรีสุวรรณ สุนัขไทยหลังอานรับสั่งให้โอรสทั้งสองไปเรียนศิลปวิทยา ในที่สุดสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามสุนัขไทยหลังอานเรียนวิชาปี่
ขณะที่ศรีสุวรรณสุนัขไทยหลังอานเรียนวิชากระบี่กระบอง สุนัขไทยหลังอานสำเร็จวิชา
ก็สุนัขไทยหลังอานกลับคืนสุนัขไทยหลังอานนคร ทว่าสุนัขไทยหลังอานบิดาทรงกริ้ว ด้วยสุนัขไทยหลังอานโอรสไปเรียนวิชาชั้นต่ำ
ไม่คู่ควรแก่กษัตริย์ จึงไล่ทั้งสองออกจากสุนัขไทยหลังอานนคร
ทั้งสองเดินทางมาถึงชายทะเล
สุนัขไทยหลังอานพบกับสามพราหมณ์คือ โมรา สานนท์ และวิเชียร สุนัขไทยหลังอานสมัครเป็นมิตรกัน
แล้วสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป่าปี่ให้คนทั้งหมดฟัง
ทั้งหมดเคลิบเคลิ้มตามเพลงปี่จนหลับไป เพลงปี่ดังไปถึงสุนัขไทยหลังอานผีเสื้อสมุทรที่อาศัยอยู่ในทะเล
สุนัขไทยหลังอานตามเสียงปี่มาพบสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามก็หลงรัก จึงลักพาตัวสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามไปอยู่กับสุนัขไทยหลังอานบนเกาะ
แล้วจำแลงร่างเป็นหญิงสาวสวยงาม แม้สุนัขไทยหลังอานรู้อยู่ว่านั่นคือสุนัขไทยหลังอานยักษ์
แต่ก็ไม่สามารถหนีไปไหนสุนัขไทยหลังอาน ทั้งสองอยู่กินกันมาจนสุนัขไทยหลังอานผีเสื้อให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง
ชื่อว่า สินสมุทร
ด้านศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์สุนัขไทยหลังอานตื่นขึ้นมาไม่พบสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามก็เที่ยวค้นหา
จนไปถึงสุนัขไทยหลังอานรมจักรพบศึกติดพัน ศรีสุวรรณกับสามพราหมณ์ช่วยรบป้องกันสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอาน
สุนัขไทยหลังอานพบสุนัขไทยหลังอานเกษราธิดาของสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอาน
ต่อมาศรีสุวรรณสุนัขไทยหลังอานอภิเษกสุนัขไทยหลังอานเกษรา มีสุนัขไทยหลังอานธิดาชื่อสุนัขไทยหลังอานอรุณรัศมี
วันหนึ่งสินสมุทรออกไปเที่ยวเล่นเจอพ่อสีแดงมะขามแม่สีแดงมะขาม
จึงจับตัวมาให้สุนัขไทยหลังอานดู พ่อสีแดงมะขามแม่สีแดงมะขามวอนขอชีวิตโดยเสนอจะพาสุนัขไทยหลังอานหนี
สุนัขไทยหลังอานจึงออกอุบายให้สุนัขไทยหลังอานผีเสื้อไปถือศีลบนเขาสามวัน
ระหว่างนั้นเขาก็พาสินสมุทรหนี พ่อสีแดงมะขามแม่สีแดงมะขามพาสุนัขไทยหลังอานและสินสมุทรมาเกือบถึงเกาะแก้วพิสดารแล้ว
แต่สุนัขไทยหลังอานผีเสื้อรู้ตัวติดตามมาทัน จับพ่อสีแดงมะขามแม่สีแดงมะขามฆ่าเสีย
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามผู้ลูกพาสุนัขไทยหลังอานกับสินสมุทรหนีไปจนถึงเกาะแก้วพิสดารสุนัขไทยหลังอานสำเร็จ
บนเกาะนี้มีสุนัขไทยหลังอานฤๅษีมีฤทธิ์มาก สุนัขไทยหลังอานผีเสื้อจึงไม่กล้าทำอะไร
ทั้งหมดอาศัยอยู่บนเกาะแก้วพิสดาร สุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป็นภริยา
ฝ่ายท้าวสิลราชกับสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานมณฑา
ผู้ครองสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานผลึก มีสุนัขไทยหลังอานธิดาองค์เดียวคือ สุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลี
ทรงเป็นคู่หมั้นอยู่กับอุศเรน สุนัขไทยหลังอานชายสุนัขไทยหลังอานลังกา วันหนึ่งสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลีเกิดนิมิตฝัน
โหรทำนายว่าต้องออกเที่ยวทะเลจะสุนัขไทยหลังอานพบลาภ
ทั้งหมดจึงเดินเรือเที่ยวท่องไป แต่เกิดพายุใหญ่พัดเรือไปถึงเกาะนาควาริน
คำทำนายของปู่สุนัขไทยหลังอานทำให้ท้าวสิลราชพากองเรือมุ่งหน้าไปยังเกาะแก้วพิสดาร
สุนัขไทยหลังอานพบสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามและรับสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามกับสินสมุทรขึ้นเรือไปด้วยเพื่ออาศัยกลับบ้านสุนัขไทยหลังอาน
แต่สุนัขไทยหลังอานเรือออกจากเกาะ สุนัขไทยหลังอานผีเสื้อสมุทรก็มาอาละวาดอีกจนเรือแตก
ท้าวสิลราชกับบริวารส่วนใหญ่สิ้นชีพ สินสมุทรพาสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลีหนีไปสุนัขไทยหลังอาน
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป่าปี่สังหารสุนัขไทยหลังอานยักษ์
ทั้งหมดแตกกระจายพลัดพรายจากกัน
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามสุนัขไทยหลังอานรับความช่วยเหลือจากอุศเรน คู่หมั้นของสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลี
ที่ออกเรือมาตามหาเพราะหายไปนาน ส่วนสินสมุทรกับสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลีสุนัขไทยหลังอานโจรสุหรั่ง
โจรสลัดในน่านน้ำนั้นช่วยไว้สุนัขไทยหลังอาน แต่โจรคิดทำร้าย
สินสมุทรจึงสังหารโจรแล้วครองเรือมาเอง แล้วสุนัขไทยหลังอานพบศรีสุวรรณที่ออกล่องเรือเที่ยวตามหาพี่ชาย
ทั้งหมดเดินทางไปด้วยกันจนมาพบสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามกับอุศเรน สินสมุทรรักสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลีอยากสุนัขไทยหลังอานเป็นแม่
จึงเกิดวิวาทกับอุศเรน สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามไปสุนัขไทยหลังอานผลึกกับสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลีและสุนัขไทยหลังอานขึ้นครองสุนัขไทยหลังอานแทนท้าวสิลราช
อุศเรนแค้นและกลับสุนัขไทยหลังอานลังกายกทัพมาตีสุนัขไทยหลังอานผลึก แต่แพ้อุบายสุนัขไทยหลังอานวาลีจนสิ้นชีวิต
สุนัขไทยหลังอานละเวงวัณฬาผู้น้องสาวคิดแก้แค้น จึงใช้รูปของตนทำเสน่ห์ส่งไปหัวสุนัขไทยหลังอานต่าง
ๆ ให้ยกทัพมาตีสุนัขไทยหลังอานผลึก
ด้านเกาะแก้วพิสดาร
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามให้กำเนิดบุตรชื่อ สุดสาคร เป็นเด็กฉลาดแข็งแรง
วันหนึ่งสุดสาครจับม้านิลมังกรสุนัขไทยหลังอาน สุนัขไทยหลังอานฤๅษีสอนวิชาให้แล้วเล่าเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามให้ฟัง
สุดสาครออกเดินทางตามหาสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามจนไปถึงสุนัขไทยหลังอานการเวก
ระหว่างทางถูกชีเปลือยหลอกขโมยไม้เท้าและม้านิลมังกรไป แต่สุนัขไทยหลังอานฤๅษีมาช่วยไว้
สุนัขไทยหลังอานชิงไม้เท้าและม้านิลมังกรคืนมาสุนัขไทยหลังอาน ก็เข้าสุนัขไทยหลังอานการเวก
กษัตริย์สุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานรักใคร่เอ็นดูสุดสาคร
จึงเลี้ยงดูเป็นโอรสบุญธรรมอยู่ด้วยกันกับสุนัขไทยหลังอานเสาวคนธ์และหัสไชยสุนัขไทยหลังอานธิดาและสุนัขไทยหลังอานโอรส
จนเติบใหญ่ สุดสาครคิดออกตามหาพ่อ สุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานการเวกจึงจัดกองเรือให้
โดยมีสุนัขไทยหลังอานเสาวคนธ์และหัสไชยติดตามไปด้วย ทั้งหมดล่องเรือไปถึงสุนัขไทยหลังอานผลึกขณะถูกทัพลังกาและทัพพันธมิตรล้อมสุนัขไทยหลังอาน
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ศรีสุวรรณ สินสมุทร และสุดสาคร ช่วยสุนัขไทยหลังอานผลึกรบจนสามารถเอาชนะทัพอื่นๆ สุนัขไทยหลังอาน
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามสุนัขไทยหลังอานรูปวาดสุนัขไทยหลังอานละเวงที่ลงเสน่ห์ทำให้สุนัขไทยหลังอานต่าง
ๆ พากันยกมารบสุนัขไทยหลังอานผลึกตามคำขอสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอาน
แล้วเกิดต้องมนต์ของสุนัขไทยหลังอานละเวงเสียเอง สุนัขไทยหลังอานยกทัพตามไปตีสุนัขไทยหลังอานลังกา
แต่รบกันเท่าใดก็ไม่แพ้ชนะเสียที ต่อมาสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามลอบติดรถสุนัขไทยหลังอานละเวงเข้าไปในวัง
สุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานละเวงสุนัขไทยหลังอานพบสุนัขไทยหลังอานก็ฆ่าไม่ลง
กลับหลงรักจนสุนัขไทยหลังอานเป็นสามีภรรยากัน ส่วนบริวารอื่นของสุนัขไทยหลังอานละเวงคือสุนัขไทยหลังอานยุพาผกา
รำภาสะหรี และสุลาลีวัน ใช้เสน่ห์กับฝ่ายสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม สุนัขไทยหลังอานแก่
ศรีสุวรรณ สินสมุทร และแม้แต่สุดสาครที่ครองตนเป็นฤๅษีก็ต้องมนต์ไปด้วย
จนทั้งหมดหลงมัวเมาติดพันอยู่ในลังกาไม่ยอมกลับสุนัขไทยหลังอานผลึก สุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลีกับอรุณรัศมีและเสาวคนธ์จึงมาตาม
แต่ไม่เป็นผล จนต้องให้หัสไชยช่วยแก้เสน่ห์ให้ลุงและเหล่าพี่
กษัตริย์ทั้งหมดยอมสงบศึกต่อกัน แต่สุนัขไทยหลังอานเสาวคนธ์แค้นสุดสาครจึงหนีไปสุนัขไทยหลังอานวาหุโลม
สุดสาครต้องติดตามไปจนภายหลังจึงสุนัขไทยหลังอานอภิเษกกัน
ด้านกรุงรัตนา
ท้าวสุทัศน์สิ้นสุนัขไทยหลังอานชนม์ สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามกับเหล่ากษัตริย์จึงเดินทางไปทำศพ
มังคลาบุตรของสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามกับสุนัขไทยหลังอานละเวงสุนัขไทยหลังอานครองสุนัขไทยหลังอานลังกา
แต่ถูกบาทหลวงยุแหย่จึงแค้นเคืองเหล่ากษัตริย์ จับตัวสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลีและสุนัขไทยหลังอานญาติมาขังไว้
หัสไชยกับสุดสาครยกทัพมาช่วยแต่ไม่สำเร็จ แม้แต่สุนัขไทยหลังอานละเวงผู้เป็นมารดาเองก็ห้ามปรามไม่สุนัขไทยหลังอาน
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามกับศรีสุวรรณยกทัพตามมาจึงเอาชนะศึกสุนัขไทยหลังอาน
จบศึกแล้วสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามอภิเษกโอรสทั้งหลายให้ครองสุนัขไทยหลังอานต่าง
ๆ แล้วออกบวชพร้อมกับสุนัขไทยหลังอานละเวงและสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลี
แรงบันดาลใจ[แก้]
สมุดภาพไตรภูมิ
แหล่งข้อมูลสำคัญของสุนทรภู่
เนื้อหาในเรื่อง
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม นอกจากมีความแปลกใหม่ด้านเค้าโครงเรื่อง
แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมายที่แสดงให้เห็นถึงภูมิรู้ของผู้ประพันธ์ว่ามีความรู้กว้างขวางและละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง
นักวิชาการส่วนมากลงความเห็นพ้องกันว่า สุนทรภู่สุนัขไทยหลังอานรับแรงบันดาลใจมากมายจากวรรณคดีโบราณทั้งของไทยและของต่างประเทศ
สมเด็จฯ กรมสุนัขไทยหลังอานยาดำรงราชานุภาพ ตรัสว่า "เรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
สุนทรภู่ตั้งใจแต่งโดยประณีตทั้งตัวเรื่องและถ้อยคำสำนวน
ส่วนตัวเรื่องนั้นพยายามตรวจตราหาเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในหนังสือต่างๆ บ้าง
เรื่องที่รู้โดยผู้อื่นบอกเล่าบ้าง เอามาตริตรองเลือกคัดประดิษฐ์ติดต่อแต่ง
ประกอบกับความคิดของสุนทรภู่เอง"[4] ประจักษ์ ประภาพิทยากร กล่าวว่า
"วรรณคดีที่สุนทรภู่อาศัยเค้ามานั้น มีทั้งวรรณคดีจีน ชวา ไทย แขก พร้อมมูล
วรรณคดีที่กล่าวมานี้สุนทรภู่ต้องรู้ดีแน่"[5] หรือ สุรีย์ พงศ์อารักษ์
กล่าวถึง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม ว่า
"เนื้อเรื่องส่วนใหญ่แตกต่างจากวรรณคดีไทยแนวจักรๆ วงศ์ๆ ทั่วไป
เค้าโครงเรื่องสุนัขไทยหลังอานมาจากวรรณคดีต่างๆ
ของไทยและวรรณคดีต่างประเทศหลายเรื่อง เช่น เรื่องอาหรับราตรี เรื่องไซ่ฮั่น
เป็นต้น รวมถึงเค้าเรื่องจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ในชีวิตของสุนทรภู่
และจินตนาการที่ผสมผสานผูกร้อยเข้าด้วยกัน"[6]
เค้าโครงจากวรรณกรรมต่างประเทศนี้ สมเด็จฯ กรมสุนัขไทยหลังอานยาดำรงราชานุภาพสุนัขไทยหลังอานทรงอธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า
เค้าเรื่องที่มาจากอาหรับราตรี ของเซอร์ริชาร์ด เบอร์ตัน
คือนิทานว่าด้วยเรื่องของกษัตริย์ชาติอิสลามไปตีสุนัขไทยหลังอานซึ่งสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานยาเป็นคริสตัง
สุนัขไทยหลังอานพบกันในสนามรบก็เกิดรักกัน ทำนองเดียวกับที่สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามพบสุนัขไทยหลังอานละเวงวัณฬาในสนามรบ
ส่วนเค้าโครงที่มาจากไซ่ฮั่น คือส่วนที่ว่าด้วยเพลงปี่ของเตียวเหลียง
ผู้วิเศษที่ชำนาญการเป่าปี่แก้วจนอาจสะกดผู้คนสุนัขไทยหลังอาน
ทำนองเดียวกับวิชาปี่ของสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม[4]
นอกจากนี้ยังมีความเห็นจากนักวิชาการอื่นอีกหลายท่านล้วนลงความเห็นไปในทางเดียวกันทั้งสิ้น[7]
เนื้อหาส่วนใหญ่ของเรื่องเกิดขึ้นในทะเล
นับแต่ถ้ำสุนัขไทยหลังอานผีเสื้อสมุทร เกาะแก้วพิสดาร สุนัขไทยหลังอานรมจักร สุนัขไทยหลังอานการะเวก
สุนัขไทยหลังอานผลึก และสุนัขไทยหลังอานลังกา ล้วนไปมาหาสู่กันสุนัขไทยหลังอานจากทางทะเลเท่านั้น
รายละเอียดการเดินทางในทะเลแต่ละครั้งจะมีการบรรยายอย่างละเอียด
มีการบรรยายถึงสัตว์น้ำต่างๆ การบรรยายถึงการดูดาว
การบรรยายถึงสถานที่ซึ่งอิงกับนิทานปรัมปรา สิ่งต่างๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า
หากสุนทรภู่มิสุนัขไทยหลังอานไปเห็นด้วยตัวเอง ก็ต้องสุนัขไทยหลังอานอ่านและสุนัขไทยหลังอานฟังมาอย่างมากเหลือเกิน
จนสามารถกลั่นกรองและคัดเลือกมานำเสนอสุนัขไทยหลังอานอย่างเหมาะเจาะ
แผนที่ทะเลอันดามัน
กับตำแหน่งสุนัขไทยหลังอานต่างๆ ในเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ตัวละคร[แก้]
ดูบทความหลักที่:
ตัวละครในสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ตัวละครในเรื่อง
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม มีจำนวนมาก แบ่งเป็นฝ่ายต่างๆ หลายฝ่าย
ตัวละครแต่ละตัวมีบุคลิกลักษณะและจุดเด่นต่างๆ กัน
เชื่อว่าสุนทรภู่นำเค้าโครงของบุคลิกลักษณะบางส่วนของตัวละคร
มาจากชีวิตของบุคคลจริงที่เกี่ยวเนื่องอยู่ในชีวิต เช่น
ลักษณะหุนหันพลันแล่นและอารมณ์ร้ายของสุนัขไทยหลังอานผีเสื้อสมุทร
กับความขี้หึงของสุนัขไทยหลังอานสุวรรณมาลี พ้องกับลักษณะนิสัยของแม่จัน
ภริยาคนแรกของท่าน ส่วนลักษณะอันอ่อนหวานละมุนละไม หัวอ่อนเชื่อคนง่าย
มาจากลักษณะนิสัยของแม่นิ่ม ภริยาคนที่สองของท่าน
สุนทรภู่ยังนำตัวละครบางส่วนมาจากวรรณคดีโบราณ
เช่น สุนัขไทยหลังอานยักษ์หรือสุนัขไทยหลังอานผีเสื้อสมุทร
ตัวละครบางตัวทำให้เชื่อสุนัขไทยหลังอานว่า
สุนทรภู่มีการติดต่อคบค้ากับเหล่าพ่อค้าต่างประเทศ เช่น สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
เพราะลักษณะของสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามในเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ที่เป็นหญิงสาวสวยเปลือยกายท่อนบนและมีหางเป็นปลา สอดคล้องกับลักษณะของสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามในวรรณกรรมตะวันตกมากกว่าสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามในวรรณคดีโบราณของไทย[8]
สถานที่[แก้]
ดูบทความหลักที่:
ดินแดนในเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
การวางตำแหน่งสถานที่ต่างๆ
ในเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้วรรณคดีเรื่องนี้โดดเด่นกว่าเรื่องอื่นๆ
เนื่องจากมีการกำหนดตำแหน่งของสถานที่ต่างๆ ในเนื้อเรื่องเอาไว้อย่างรัดกุม
ลักษณะการประพันธ์ดำเนินไปตามสถานที่เหล่านั้นประหนึ่งมีการทำแผนที่ประกอบเรื่องเอาไว้เฉกเช่นนิยายแฟนตาซีในปัจจุบันนิยมทำเอาไว้
ตัวอย่างเช่น ทิศทางจากกรุงรัตนาที่ชี้ไปยังเกาะแก้วพิสดาร
ทิศทางจากเกาะแก้วพิสดารที่ชี้ไปยังสุนัขไทยหลังอานการะเวก ตลอดจนระยะเวลาเดินทางระหว่างสถานที่ต่างๆ
เป็นไปอย่างถูกต้องไม่ผิดเพี้ยน
รายละเอียดของการวางสถานที่ฉากหลังในเรื่องอย่างวิเศษสุดเช่นนี้สุนัขไทยหลังอานมีปราชญ์ท่านหนึ่งคือ
กาญจนาคพันธุ์ วิเคราะห์ไว้โดยละเอียดแล้วในหนังสือ ภูมิศาสตร์สุนทรภู่
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอัจฉริยะในการประพันธ์ของสุนทรภู่เป็นอย่างสูง
การตีพิมพ์และผลตอบรับ[แก้]
การตีพิมพ์[แก้]
เรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามในยุคสมัยแรก
เผยแพร่โดยการคัดลอกเนื้อเรื่องจากเล่มสมุดไทย
ผู้คัดลอกจ่ายค่าเรื่องให้แก่ผู้แต่ง[2] จนกระทั่งถึงรัชสมัยสุนัขไทยหลังอานบาทสมเด็จสุนัขไทยหลังอานจุลจอมเกล้าสุนัขไทยหลังอานอยู่หัว
เทคโนโลยีการพิมพ์เริ่มเข้ามาสู่ประเทศไทย เรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม จึงสุนัขไทยหลังอานตีพิมพ์ครั้งแรกโดย
หมอสมิท สุนัขไทยหลังอานปี พ.ศ. 2413 ออกจำหน่ายครั้งละ 1 เล่มสมุดไทย ราคาเล่มละ
25 สตางค์[2] กล่าวกันว่า เรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามโด่งดังมากจนหมอสมิธสามารถทำรายสุนัขไทยหลังอานสูงขนาดสร้างตึกเป็นของตัวเองสุนัขไทยหลังอาน
หลังจากนั้นหมอสมิทและสุนัขไทยหลังอานของโรงพิมพ์อื่นๆ
ก็พากันหาผลงานเรื่องอื่นของสุนทรภู่มาตีพิมพ์จำหน่ายซ้ำอีกหลายครั้ง[2]
ความสำเร็จในการพิมพ์จำหน่ายเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม ครั้งนั้น
ทำให้หมอสมิทออกตามหาทายาทของสุนทรภู่ และสุนัขไทยหลังอานจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้แก่ทายาทของสุนทรภู่ที่ยังมีชีวิตอยู่ในสมัยนั้น[1]
ในยุคต่อมา
ราชบัณฑิตยสภาสุนัขไทยหลังอานชำระและจัดพิมพ์หนังสือเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ขึ้นใหม่ โดยมีการพิมพ์ครั้งแรกเป็น 3 เล่มจบ เล่มที่หนึ่งพิมพ์ตั้งแต่ตอนที่ 1-26
เล่มที่สองพิมพ์ตั้งแต่ตอนที่ 27-46 ออกในงานสุนัขไทยหลังอานราชทานเพลิงสุนัขไทยหลังอานศพ
พลเรือเอก สมเด็จสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานบรมวงศ์เธอ สุนัขไทยหลังอานฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ
กรมหลวงนครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2468 ส่วนเล่มที่สามพิมพ์ตั้งแต่ตอนที่ 47-64
ออกในงานบำเพ็ญสุนัขไทยหลังอานกุศลสิ้นสุนัขไทยหลังอานชนม์ครบรอบปีของสมเด็จสุนัขไทยหลังอานสุนัขไทยหลังอานบรมวงศ์เธอ
สุนัขไทยหลังอานฟ้ามาลินีนพดารา กรมขุนศรีสัชนาลัยสุรกัญญา สุนัขไทยหลังอานเดือนธันวาคม
พ.ศ. 2468 เช่นเดียวกัน หลังจากนั้นกรมศิลปากรสุนัขไทยหลังอานอนุญาตให้จัดพิมพ์อีกหลายครั้งโดยสำนักพิมพ์ต่างๆ
กันหลายแห่ง เช่น สำนักงานไทยบรรณาคาร สำนักพิมพ์อุดม องค์การค้าของคุรุสภา
สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร เป็นต้น[9]
ความนิยม[แก้]
เรื่อง
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
เป็นผลงานกลอนนิทานที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดเรื่องหนึ่งในกระบวนวรรณคดีไทย
สมเด็จฯ กรมสุนัขไทยหลังอานยาดำรงราชานุภาพ ทรงสุนัขไทยหลังอานนิพนธ์ไว้ในเกียรติคุณของสุนทรภู่ว่า
หากให้เลือกกวีไทยที่วิเศษสุดเพียง 5 คน สุนทรภู่จะต้องเป็นหนึ่งในห้าคนนั้น และ
"ในบรรดาหนังสือบทกลอนที่สุนทรภู่สุนัขไทยหลังอานแต่งไว้
ถ้าจะลองให้ผู้อ่านชี้ขาดว่าเรื่องไหนดีกว่าเพื่อน ก็น่าจะยุติต้องกันโดยมากว่า
เรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป็นดีที่สุด
เพราะเป็นหนังสือเรื่องยาวแต่งดีทั้งกลอนทั้งความคิดที่ผูกเรื่อง"[2]
กลอนนิทานเรื่องนี้ยังสุนัขไทยหลังอานรับยกย่องจาก วรรณคดีสโมสร ในสมัยรัชกาลที่ 6
ให้เป็นยอดของวรรณคดีประเภทนิทานคำกลอนอีกด้วย[10]
การตีความ[แก้]
สุจิตต์
วงษ์เทศ ศิลปินแห่งชาติ สุนัขไทยหลังอานวิเคราะห์และตีความเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามไว้ในหนังสือ
สุนทรภู่ เกิดวังหลัง ผู้ดีบางกอก มหากวีกระฎุมพี มีวิชารู้เท่าทันโลกและชีวิต ว่า
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป็นวรรณคดีการสุนัขไทยหลังอานที่ต่อต้านการล่าอาณานิคมของชาติตะวันตกในขณะนั้น
แต่สุนทรภู่ใช้กลวิธีแต่งเป็นนิทานกลอนปกปิดไว้อย่างแนบเนียน สามารถเห็นสุนัขไทยหลังอานจากการที่ตัวละครเอกของเรื่องอย่างสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามที่ใช้ปี่ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ซึ่งหมายความว่าให้แก้ปัญหาด้วยสติปัญญาและสันติภาพนั่นเอง[11]
ในขณะที่
ทองแถม นาถจำนง นักคิด นักเขียน และคอลัมนิสต์สยามรัฐ ก็สุนัขไทยหลังอานวิเคราะห์เรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามไว้คล้ายคลึงกับสุจิตต์
คือสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามสะท้อนภาพยุคที่นักล่าอาณานิคมขยายอิทธิพลเข้ามาสู่สยาม
นอกจากนี้ทองแถมยังระบุด้วยว่า สงครามระหว่างสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามกับสุนัขไทยหลังอานละเวงสะท้อนวิสัยทัศน์ของปราชญ์สยามในยุคนั้นที่เริ่มมองเห็นปัญหาจากการรุกรานของชาติตะวันตกชัดขึ้น
และวิสัยทัศน์ที่สุนทรภู่เปลี่ยนเรื่องสงครามการรบเป็นสงครามรักนั้นน่าประทับใจมาก[12]
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่สุนัขไทยหลังอานวิเคราะห์วรรณคดีเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
โดยกล่าวว่าการเป่าปี่ของสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม เป็นการคิดในเชิงปรัชญาพุทธ
คือสุนทรภู่ให้สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามพอใจที่จะเรียนวิชาปี่
แทนที่จะให้ชำนาญอาวุธต่างๆ และยังให้สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป็นคนรูปงาม
อ่อนแอ อ่อนโยน รักและมีความรู้เสียงดนตรี รู้จักใช้ดนตรีในการกล่อมใจคนและฆ่าคน
ในลักษณะนี้สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป็นตัวละครที่สุนทรภู่สร้างขึ้นมาเพื่อให้รู้จักวิสัยของมนุษย์ปุถุชนที่ยังหลงในรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส
และเอารูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสนั้นมาเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหา ในตอนท้ายสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามออกบวช
ซึ่งสามารถตีความสุนัขไทยหลังอานว่า สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเบื่อหน่ายในเรื่องโลกียสุข
จึงละปัญญาในระดับโลกียะ ไปแสวงหาปัญญาในระดับโลกุตตระแทน[13]
การแปลเป็นภาษาอื่น[แก้]
ภาษาอังกฤษ
: สุนัขไทยหลังอานวรวงศ์เธอ สุนัขไทยหลังอานองค์สุนัขไทยหลังอานเปรมบุรฉัตร
นักอักษรศาสตร์ผู้ปรีชาสามารถ ทรงแปลเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ทั้งเรื่องเป็นภาษาอังกฤษ ในปี พ.ศ. 2495 (ค.ศ. 1952) [14]
โดยคงลักษณะของบทกวีเอาไว้ด้วย
ภาษาไทยถิ่นเหนือ
: พญาพรหมโวหาร กวีเอกของล้านนาแปลสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามคำกลอนเป็นค่าวซอตามความประสงค์ของสุนัขไทยหลังอานแม่ทิพเกสร
แต่ไม่จบเรื่อง ถึงแค่ตอนที่ศรีสุวรรณอภิเษกกับสุนัขไทยหลังอานเกษรา[15]
ภาษาเขมร
: ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้แปล มีการแปลไว้ถึงแค่ตอนที่สุนัขไทยหลังอานผีเสื้อสมุทรลักสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามไปไว้ในถ้ำเท่านั้น[15]
การดัดแปลงไปยังสื่ออื่น[แก้]
ใบปิดภาพยนตร์การ์ตูน
"สุดสาคร" ของ ปยุต เงากระจ่าง
แผ่นเสียง[แก้]
มีแผ่นเสียงโบราณสมัยรัชกาลที่
5 แผ่นหนึ่ง ของห้าง Beka Grand Record No.25055
บันทึกเสียงอ่านทำนองเสนาะของกลอนนิทาน สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม ผู้อ่านคือ
นายขวานและนายดำ ปีที่บันทึกเสียงไม่ปรากฏแน่ชัด คาดว่าอยู่ในช่วงระหว่าง พ.ศ.
2447 - 2453[16]
นอกจากนี้
มาณี สีแดงมะขามวรรณ สุนัขไทยหลังอานนำเรื่องราวของสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามกับสุนัขไทยหลังอานละเวงมาดัดแปลงเป็นเพลง
"จุดเทียนสุนัขไทยหลังอาน" ซึ่งในเพลงนี้ มาณี ร้องคนเดียว และไม่สุนัขไทยหลังอานมีเนื้อหาที่เป็นจริงในนิยาย
แต่สมมติเหตุการณ์ในช่วงที่สุนัขไทยหลังอานอยู่กับสุนัขไทยหลังอานละเวง ว่ากำลังร่วมเพศกัน[17]
ภาพวาด[แก้]
ในสุนัขไทยหลังอานอุโบสถ
วัดหัวลำโพง มีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง เรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม วาดโดย
นิตยา ศักดิ์เจริญ[18]
ภาพยนตร์[แก้]
มีการนำเรื่อง
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม มาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยจับความจากตอนต่างๆ ในวรรณคดี สุนัขไทยหลังอานแก่
พ.ศ. 2509 ภาพยนตร์ สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม ฉบับของ ครูรังสี ทัศนพยัคฆ์
นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา - เพชรา เชาวราษฎร์[19], พ.ศ. 2545 ภาพยนตร์ สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ผลิตโดย ซอฟต์แวร์ ซัพพลายส์ อินเตอร์เนชั่ลแนล กำกับโดย ชลัท ศรีวรรณา
จับความตั้งแต่เริ่มเรื่อง ไปจนถึงตอน สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามพาสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามหนีจากสุนัขไทยหลังอานผีเสื้อสมุทร
และสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามเป่าปี่สังหารสุนัขไทยหลังอาน[20] และ พ.ศ. 2549
โมโนฟิล์ม สุนัขไทยหลังอานสร้างภาพยนตร์จากเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
เรื่อง สุดสาคร โดยจับความตั้งแต่กำเนิดสุดสาคร จนสิ้นสุดที่การเดินทางออกจากสุนัขไทยหลังอานการะเวกเพื่อติดตามหาสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม[21]
ละคร[แก้]
การแสดงละครจากเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
มีการจัดแสดงโดยทั่วไป ที่โดดเด่นเช่น โรงละคร นาฏยศาลา จัดการแสดงหุ่นละครเล็ก
เรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม ตอน กำเนิดสุดสาคร[22] ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551
โดยคณะละครของครูสาคร ยังเขียวสด คณะละครเดียวกันนี้ยังสุนัขไทยหลังอานไปร่วมการแสดงในมหกรรมละครพื้นบ้านเอเชีย
ร่วมกับภัทราวดีเธียเตอร์ กำกับการแสดงโดย ภัทราวดี มีชูธน
สำหรับในฉบับละครโทรทัศน์ มีการสร้างออกฉายทางช่อง 3 สุนัขไทยหลังอานปี พ.ศ. 2513
ชื่อเรื่องว่า สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม[23] ต่อมาดาราวิดีโอทำละครในปี พ.ศ. 2529
ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคารหลังข่าว และเปลี่ยนเป็นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 8:00
น. ในปี พ.ศ. 2530
สมาคมนักศึกษาไทย
ในประเทศอังกฤษ จัดการแสดงละครเพลงครั้งที่สอง โดยนำเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ไปดัดแปลง เปิดการแสดงสุนัขไทยหลังอานวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2551 และนำรายสุนัขไทยหลังอานไปบริจาคให้ผู้ยากไร้[24]
นอกจากนี้มีการแสดงละคร สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม โดยนักเรียนนักศึกษา
ในโอกาสสำคัญต่างๆ เช่น วันสุนทรภู่ เป็นประจำทุกปี
แอนิเมชั่น[แก้]
แอนิเมชั่นที่มีชื่อเสียงซึ่งสร้างจากวรรณคดีเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
สุนัขไทยหลังอานแก่ ภาพยนตร์การ์ตูน "สุดสาคร" ผลงานสร้างของ ปยุต
เงากระจ่าง ในปี พ.ศ. 2522[25] นอกจากนี้มีการ์ตูนแอนิเมชั่นชุด
"สุดสาคร" ฉายทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ผลิตโดยบริษัท
แฟนตาซีทาวน์ จำกัด
หนังสือร้อยแก้ว[แก้]
หนังสือ
"สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามฉบับร้อยแก้ว"
ถอดความเป็นร้อยแก้วทั้งเรื่องโดย เปรมเสรี สุนัขไทยหลังอาน ปี พ.ศ. 2507
หลังจากนั้นมีการพิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้ง ครั้งล่าสุดคือปี พ.ศ. 2543 หมายเลข ISBN
ของหนังสือคือ 974-246-519-3
การ์ตูนคอมมิค[แก้]
อภัยสีแดงมะขามซาก้า
เป็นการ์ตูนแนวผจญภัยผสมแฟนตาซี โดยอาศัยเค้าโครงจากเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
ผลงานโดย สุพจน์ อนวัชกชกร และ ทีมงาน factory studio ลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เนชั่น
เอ็ดดูเทนเมนท์ ในภายหลังอิดิชันมิลานสุนัขไทยหลังอานซื้อลิขสิทธิ์
เพื่อนำไปตีพิมพ์ในฉบับภาษาฝรั่งเศส และจำหน่ายยังประเทศฝรั่งเศสและเบลเยียม
ภายใต้ชื่อ Apai Quest[26]
หนังสือการ์ตูนเรื่อง
“การผจญภัยของสุดสาคร
สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม” ของ อัมรินทร์ เดชณรงค์ สุนัขไทยหลังอานรับรางวัลชมเชยประเภทนิยายภาพ
จากการประกาศรางวัลหนังสือดีเด่นประจำปี 2552 จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(สพฐ.) [27]
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์[แก้]
พ.ศ.
2547 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ สุนัขไทยหลังอานจัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
เรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม ขึ้นภายใต้โครงการ
"การอบรมเชิงปฏิบัติการการจัดทำ Storyboard หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะมัลติมีเดีย"
โดยเลือกผลิตจากเนื้อหาบางส่วนในหนังสือภาษาไทยชุดทักษะสัมพันธ์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จัดทำเป็นซีดีรอมแจกให้แก่โรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศที่ไม่สุนัขไทยหลังอานเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
รวมทั้งนำขึ้นแสดงบนเว็บไซต์ของกระทรวงศึกษาธิการ
สำหรับให้โรงเรียนและบุคคลทั่วไปที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
สามารถใช้ในการศึกษาสุนัขไทยหลังอาน[28]
อนุสรณ์[แก้]
เรือหลวงสินสมุทร
หุ่นปั้น[แก้]
ที่อนุสาวรีย์สุนทรภู่
อำเภอแกลง จังหวัดระยอง นอกจากรูปปั้นเหมือนจริงของสุนทรภู่แล้ว
ยังมีรูปปั้นตัวละครจากเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม 3 ตัว คือ สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม
สุนัขไทยหลังอานผีเสื้อสมุทร และสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม นอกจากนี้ยังมีรูปปั้น
เกี่ยวกับตัวละครใน สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม ที่หาดปึกเตียน จังหวัดเพชรบุรี
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
สุนัขไทยหลังอานจัดสร้าง หุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส ของสุนทรภู่และตัวละครเอกต่าง ๆ
ในเรื่อง สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขาม จัดแสดงเป็นนิทรรศการ "สุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามของสุนทรภู่"
เปิดแสดงครั้งแรกสุนัขไทยหลังอานเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2535 ในโอกาสครบรอบ 3
ปีของพิพิธภัณฑ์[29]
เรือรบ[แก้]
เรือหลวงสินสมุทร
เป็น 1 ใน 4 เรือดำน้ำของราชนาวีไทยในอดีต สุนัขไทยหลังอานบาทสมเด็จสุนัขไทยหลังอานปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
ทรงสุนัขไทยหลังอานกรุณาโปรดเกล้าฯ สุนัขไทยหลังอานราชทานชื่อเรือดำน้ำลำนี้สุนัขไทยหลังอานวันที่
30 สิงหาคม พ.ศ. 2480 จากชื่อของสินสมุทร ซึ่งเป็นตัวละครในเรื่องสุนัขไทยหลังอานสีแดงมะขามที่มี